30/8/57

(Mirage)Teenage Mutant Ninja Turtles #2

Teenage Mutant Ninja Turtles #2 Classic Color แบบลงสี
เรื่อง&ภาพ :Kevin Eastman&Peter Laird
จำหน่ายครั้งแรก : ตุลาคม1984
สำนักพิมพ์ : Mirage Studios
ลงสีโดย : Tom Smith's Scorpion Stuidos
แบบลงสี : มิถุนายน 2012
สำนักพิมพ์ : IDW Publishing

เมื่อเต่านินจาต้องปะทะหุ่นยนต์ไล่จับหนู Mouser การผจญภัยหน้าใหม่ของเต่านินจาได้เริ่มต้นอีกครั้ง


เรื่องราวเริ่มต้น เมื่อราฟาเอลพุ่งกระโจนเข้าหา(คนอ่าน)ใครบางคนด้วยความเกรี้ยวกราด

ภายในรัง บ้าน ที่ซ่อนตัวของเต่านินจาและสปลินเตอร์

ดูเหมือนราฟาเอลกำลังทะเลาะกับไมเคิลแองเจโลอยู่

ทางลีโอนาร์โดที่กำลังอ่านนิยายวิทยาศาตร์ดูน ก็บอกให้เลิกกันเพราะรบกวนสปลินเตอร์ที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่

ส่วนโดนาเทลโลทีกำลังเชื่อมแผงวงจรก็ไม่ใส่ใจมากนะเพราะเดี๋ยวก็เลิกไปเอง

สปลินเตอร์ที่กำลังดูทีวีก็เรียกลีโอนาร์โดให้มาดูด้วยเพราะมีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นทางทีวี

ดร.แบ็กซ์เตอร์กำลังออกรายการทีวี โดยในมือถือหุ่นยนต์ตัวเล็กของเขา นักข่าวรายการถามหุ่นตัวนี้ช่วยแก้ปัญหาหนูในเมืองยังไง?

สปลินเตอร์ดูอย่าจดใจจ่อเพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวเองโดยตรง

ดร.แบ็กซ์เตอร์จึงสาธิตผ่านเขาวงกตจำลองที่สร้างขึ้น

ผู้ช่วยเอพริวได้ปล่อยหนูทดลองวิ่งไปในเขาวงกต ไม่ช้าดร.แบ็กซ์เตอร์ก็สั่งทำงานและวางจุดเดียวที่ปล่อยหนู

ดร.แบ็กซ์เตอร์เริ่มอธิบายการทำงานของ Mouserในขณะที่หุ่นไปจับหนู

โดยหุ่นมีชิบที่สั่งงานโดยแผงควบคุม โดยหลังจากที่จับหนูได้เต็มสุดได้ห้าตัวก็จะไปจุดทิ้งโดยตรง

ดร.แบ็กซ์เตอร์ได้ให้สัญญาณว่าปัญหาหนูของเมืองจะหมดไป สปลินเตอร์ยังกังวล Mouserอยู่หน่อย เมื่อรายการจบเฟอร์นิเจอร์ในรัง บ้าน ก็พังไปอีกชิ้น ทันทีที่ไมเคิลแองเจโลใกล้พลาดท่า

ก็ได้ใช้ขาเหวี่ยงราฟาเอลกระเด็นไปชนกับผนัง

สปลินเตอร์บอกเหล่าเต่าว่าต้องระวังให้มากขึ้น แต่ในใจก็ฟุ้งคิดเรื่อง Mouser จึงตัดสินใจไปนั่งสมาธิ และบอกให้สองคนที่ทะเลาะกันทำความสะอาด

หลายสัปดาห์ผ่านไป
Mouser ประสบความสำเร็จในการไล่จับหนู ทว่ามีเหตุการปล้นธนาคารประหลาดเกิดขึ้นในเมือง

ห้องพัก(ห้องครัว)ที่ทำงานของดร.แบ็กซ์เตอร์

ผู้ช่วยเอพริอ่านหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวการปล้นธนาคารและได้คุยกับดร.แบ็กซ์เตอร์ถึงการปล้นครั้งนี้ และตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Mouserน่าจะมีความสามารถขุดอุโมงค์ได้ง่าน
ซึ่งดร.แบ็กซ์เตอร์ก็บอกเอพริลว่าเธอเป็นคนช่วยโปรแกรมทำไม Mouser ถึงต้องปล้นด้วย

เอพริลก็อดกังวลไม่ได้ว่า หากมีใครสักคนเข้าไปควบคุม หรือ รีโปรแกรม เอพริลยังคงสงสัยอยู่เหมือนเดิม แม้ ดร.แบ็กซ์เตอร์ จะพูดไปหลายรอบแล้วก็ตาม จึงตัดสินใจว่าจะโชว์ของให้เอพริวดู

ดร.แบ็กซ์เตอร์พาเอพริวไปลิฟต์ที่ใช้ประจำ และใช้บัตรตัวเองเสียบ

ลิฟต์พาลงลึกกว่าชั้นใต้ดิน

ทันทีที่เอพริวจะถาม ไฟในชั้นใต้ดินก็เผย Mouserจำนวนมาก

เอพริวยังงงว่าดร.แบ็กซ์เตอร์ผลิต Mouserจำนวนมากได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากเมืองให้งบมาทำแต่สองโหลเท่านั้น

ทันทีที่ดร.แบ็กซ์เตอร์ บอกว่ายังมีเยอะกว่านี้และอยู่ในระหว่างกันสร้าง เอพริวรู้ตัวทันทีเลยว่าดร.แบ็กซ์เตอร์นั้น...

ดร.แบ็กซ์เตอร์ก็ได้ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนปล้นธนาคาร การปล้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ซึ่ง Mouserได้ ทำอุโมงค์ตัดผ่านตึก อาคารสำคัญในเมือง โดยดร.แบ็กซ์เตอร์จะใช้เมืองเป็นตัวประกัน
แต่หากไม่ได้รับเงินค่าไถ่ก็จะทำลายตึก อาคารเหล่านั้น

เอพริวก็ตั้งคำถามว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ คุณก็สามารถทำเงินหลายล้านได้อย่างถูกกฏหมายด้วยสิ่งนี้ได้นี่

ซึ่งดร.แบ็กซ์เตอร์ก็บอกว่าที่ทำแบบนี้ก็เพราะมันสนุกกว่า เอพริวไม่อยากเชื่อหูตัวเองนี่ไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก

ขณะที่ดร.แบ็กซ์เตอร์ หลงอยู่ในโลกของตัวเอง เอพริวตัดสินใจหนี ดร.แบ็กซ์เตอร์ไม่จำเป็นต้องการใครนอกจาก Mouser

ดร.แบ็กซ์เตอร์ คาดว่าเอพริวไจะไปแจ้งความเพื่อหยุดแผนการใหญ่ จึงตัดสินใจ

เอพริวไม่สามารถใช้ลิฟต์ขึนข้างบนได้ หากไม่มีบัตรไอดีนั่น ดร.แบ็กซ์เตอร์ได้ทิ้งเอพริวลงไปในอุโมงค์ท่อระบายน้ำที่เต็มไปด้วยโคลน


เอพริวไม่รอช้ารีบหาทางออกจากอุโมงค์ท่อระบายน้ำ ดร.แบ็กซ์เตอร์ตัดสินใจปล่อย Mouser สามเครื่องออกไปจัดการเธอ

ขณะที่เอพริลคลำหาทางในความมืด เอพริวก็ได้ยินเสียงเครื่องจักร เสียงของ Mouserเธอรู้ทันทีว่าพวกมันจะฆ่าเธอ จึงรีบวิ่งเอาตัวรอด

เอพริว ก็สะดุดล้ม และ Mouser ก็มาถึง

Mouser ทั้งสามเครื่องถูกทำลายด้วยฝีมือใครสักคน เอพริลตกตะลึงสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเธอ

เต่าขนาดใหญ่ยืนได้ได้ทำลาย Mouser ช่วยชีวิตเธอไว้ได้ทัน

เอพริวสลบไปเมื่อเห็นภาพสิ่งเหลือเชื่อ

ไม่นานนัก เต่านินจาได้พาเอพริลมาที่บ้านพวกเขา และเล่าเรื่องให้ สปลินเตอร์ฟัง

เอพริลตื่นขึ้นมาก็พบว่านี่ไม่ใช่ฝันหรือจินตนาการไปเอง

สปลินเตอร์ได้แนะตัวเอง และเมื่อเอพริวถามที่มา สปลินเตอร์ก็เล่าเรื่องให้ฟัง (อ่านได้ในเล่ม1)

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

เอพริวก็ทึ่งกับเรื่องราวที่ได้ฟัง

เอพริวตั้งข้อสงสัยว่าหลังจากที่ปราบชเรดเดอร์แก้แค้นให้ท่านอาจารย์แล้วสปลินเตอร์มีเป้าหมายอื่นอีกไหม

ซึ่งสปลินเตอร์ได้ตอบก็ขึ้นอยู่กับศิษย์...

ทันใดนั้นลีโอนาร์โด??ก็เรียกอาจารย์ให้มาดูทีวี ขณะนี้ตึกแห่งนี้ได้มีการอพยพผู้คน เนื่องจากมีเทปขมขู่เพื่อเรียกค่าไถ่เพราะหากไม่จ่ายก็จะทำลายตึกทิ้ง

ซึ่งเอพลิวรู้ทันทีว่าเป็นฝีมือดร.แบ็กซ์เตอร์


ในช่วงเวลาบ่ายสาม

และเป้าหมายต่อไปตึกเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ โดยต้องจ่ายขั้นต่ำ 20 ล้านดอล

ซึ่งหลังจากที่เทปจบลง เวลาก็เลยมาสามนาที ตึกนี้ยังอยู่ดี

ซึ่งก็คงเป็นแค่...

ทันใดนั้น ตึกก็ถล่มเป็นราบกอง

เต่านินจาตัดสินใจว่าต้องหยุดชายผู้นี้ สปลินเตอร์ถามจำทางกลับไปทางลับดร.แบ็กซ์เตอร์ได้ไหม เอพริลคิดว่าน่าจะ และไม่อยากเชื่อว่าชายที่เธอเคยเคารพทำได้ลงคอ

สปลินเตอร์ส่งเหล่าเต่านินจาไปหยุดยั้งชายผู้นี้ด้วยทักษะวิชาที่เรียนรู้มาทั้งหมด

ไม่นานนัก

เอพริวนำทางเต่านินจามาทางที่เธอตก

ขณะที่ดร.แบ็กซ์เตอร์ชื่นชมตัวเองผ่านทางเทปที่เพิ่งอัดไปและกำลังดูใหม่อีกรอบ

เต่านินจานำโดยลีโอนาร์โดย่องมาด้านหลังโดยไม่ให้เขารู้ตัว


ดร.แบ็กซ์เตอร์ ตกใจที่เห็นเอพริลมีชีวิตอยู่พอๆกับที่เห็นตัวประหลาดสีเขียว

ลีโอนาร์โด กับไมเคิลแองเจโล คุมตัวเขาไม่ให้หนีไปไหน ขณะที่เอพริลกำลังหาทางปิดระบบ

ดร.แบ็กซ์เตอร์ ขัดขืนและไปดึงสวิตซ์ ลีโอนาร์โดเข้ามาหยุดช้าไป ซึ่งเขาอธิบายว่าได้เปิดสั่งการทำลายตัวเอง

ซึ่งเขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พร้อมบอกว่า Mouser จะกลับมาทำลายห้องนี้กัดกินทุกอย่างไม่เหลือซากรวมถึงเต่าด้วย

ลีโอนาร์โดขอให้ราฟาเอลช่วยหุบปากเจ้าสติหลุดโลกนี่ที

ซึ่งราฟาเอลก็จัดให้

ลีโอนาร์โดถามเอพริลว่าที่เขาว่ามาจริงไหม ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากเอพริลเพราะแผงควบคุมไม่มีการสั่งการตอบสนองอีก

ลีโอนาร์โดถามทางหนีอื่นนอกจากอุโมงค์ ซึ่งเอพริลก็บกว่าขึ้นลิฟต์ไป ทว่าไมเคิลแองเจโลพยายามเปิดลิตฟ์ที่ติดค้างอยู่

ไมเคิลแองเจโลใช้แท่งเหล้กช่วย ซึ่งก็ได้ผล ทว่าก็ถูกปิดตายด้วยหินที่ทลักเข้ามาอยู่ในนั้น

ทางหนีถูกปิดตาย

โดนาเทลโลบอกว่าพอคุ้นเคยระบบคอมพิวเตอร์อยู่บ้างเลยอยากให้เอพริลที่เคยช่วยโปรแกรม Mouser ช่วยหาวิธีหยุดการสั่งการทำลายตัวเอง

ซึ่งเอพริวบอกมันกินเวลา และ Mouser ก็คงมาถึงก่อน

ลีโอนาร์โดมีแผนถ่วงเวลาพวกมัน ถามว่าที่แล็ปมีระเบิดอยู่ไหม

ราฟาเอลเจอสิ่งที่ต้องการพอดี โดนาเทลโลบอกให้ไปเปิดอุโมงค์ ซึ่งทั้งสามก็ทำตามและนำระเบิดไปวาง

ไมเคิลแองเจโลพร้อมจุดไฟ ทว่าเสียงเครื่องจักรของ Mouser

ดังเข้ามาใกล้

ราฟาเอล กับ ลีโอนาร์โด เข้าไปฟาดฟันถ่วงเวลารอให้ ไมเคิลแองเจโลจุดเสร็จ

เมื่อเสร็จ ไมเคิลแองเจโล ก็บอกให้รีบออกมา

ตูม

ทางเข้าถูกขวาง ทุกคนปลอดภัยกันดี ยกเว้นหูไมเคิลแองเจโล?ที่เจ็บอยู่หน่อย

ไมเคิลแองเจโลกลับมาดูลาดเลาที่แล็ปว่าถึงไหนแล้ว

โดนาเทลโลกับเอพริลยังหาทางปิดระบบไม่ได้

เสียงพี่ชายเตือนไมเคิลแองเจโลว่าพวมันจะทะลุผ่านมาแล้ว

ทางด้านในก็ยังหาทางกันอยู่ กำลังถกเรื่องการใช้ไวรัส

Mouser ตัวแรกโผล่ขึ้นมา ไมเคิลแองเจโลเปิดคนแรก ทว่าอีกสองเครื่องก็โผล่ขึ้นมา

โดนาเทลโลท้อแผนไวรัสใช้เวลาเขียนเป็นวัน

ลีโอนาร์โดฟันอย่างดุดเดือน

ในที่สุดโดนาเทลโลก็นึกแผนดีออกหาก Mouser ควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งเอพริวก็ยืนยันสิ่งนั้น

เต่านินจาทั้งสามก็พยายามทำลาย Mouserอย่างเต็มที่

โดนาเทลโลและเอพริวเริ่มแผนการอีกครั้ง

Mouser ถูกทำลายเพิ่มมากขึ้น

โดนาเทลโลนึกบางอย่างออก เอพริวก็หวังว่ามันจะได้ผล

ใต้เท้าเต่านินจาทั้งสามเต็มไปด้วยกองเศษเหล็ก Mouser

ทว่าก็เป็นแค่ส่วนเล็กๆ Mouser ทะลายทางปิดมาแล้ว

ลีโอนาร์โดบอกสองคนให้วิ่งกลับไปที่แล็บ

ท่ามกลางความตรึงเครียด เอพริลพบว่าแผนนี้ได้ผลแต่การสั่งปิดอยู่ขั้นตอนสุดท้ายซึ่งกินเวลา เวลาก็ใกล้หมดลงทุกที

ขณะที่ทั้งสามวิ่งกลับมาลีโอนาร์โดสั่งโดนาเทลโลให้ปิดประตูทันที

ทั้งสามกลับถึงห้องได้อย่างปลอดภัย

ทว่า Mouser ก็ไม่ยอมหยุดง่ายๆ ค่อยๆกัดกินกำแพงห้องเข้ามาเรื่อยๆเข้ามาเรื่อยๆ

โปรแกรมที่ทำคิดมาได้ผลแต่ยังเร็วไม่พอ เอพริลภาวนา

ทั้งสองลุ้นอย่างเต็มที่ อีกสามเตรียมตัวสู้ตาย

จู่ๆไฟก็ดับ เสียงดังของเครื่องจักรต่างก็หยุดลงไป

จนเงียบสนิท

เต่านินจาคนหนึ่งเอ่ยทำลายความเงียบ

ลีโอนาร์โดจุดไฟทำลายความมืด

ลีโอนาร์โด : ดูเหมือนแผนมันจะได้ผล!

เต่านินจาทั้งสี่และเอพริลรอดตายอย่างเสียดฉิว
จบตอน


-เล่มสองเปิดตัวละครวายร้าย Baxter Stockman กับหุ่นยนต์ Mouser และตัวละครหลักของซีรี่ย์ April O'neil
-ระหว่างบุกแล็ปลีโอนาร์โดพกดาบเล่มเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น