29/6/58

Tensei Shitara Slime Datta Ken บทนำ

Tensei Shitara Slime Datta Ken  กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นสไลม์
บทนำ
การตายและการกลับชาติมาเกิดใหม่
(Death~ and Reincarnation)



มินามิ ซาโตรุ วัย 37 ที่อยู่มาวันหนึ่งก็ถูกนักเลงแทงตาย ทว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานนะสไลม์ และได้พบกับมังกรระดับหายนะ 'มังกรวายุเวรุโดร่า' หลังจากได้ชื่อใหม่ 'ริมูรุ' จากมังกรเวรุโดร่า การผจญภัยโลกใบใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น ระหว่างเริ่มต้นชีวิตใหม่เขาได้เข้าเผชิญความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าก็อบลินและกาโร ถูกจับพลัดจับพลูให้เป็นผู้ปกครองเหล่ามอสเตอร์ ด้วยความสามารถ [นักล่า] ที่ช่วยขโมยความสามารถฝ่ายตรงข้าม และ [มหาปราชญ์] ความหยั่งรู้เข้าใจถึงกฏแห่งจักรวาล ตำนานสไลม์ผู้แข็งแกร่งผู้มีสองความสามารถเป็นอาวุธ เริ่มขึ้นแล้ว!



ชีวิตที่ปกติสุขและไร้ค่า

พอจบมหาลัย ก็ไปลองงานในบริษัทก่อสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นชายโสดอายุ37ปี ไม่มีแฟนแม้แต่คนเดียว

เพราะมีพี่ชายคนโตที่อายุราวๆเดียวกันได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ไปหมดคนเดียว ผมก็เลยใช้ชีวิตได้อย่างอิสระลงเอ๋ยด้วยการเป็นโสดไม่ต้องมีโซ่อะไรมาผูกมัดกับตัว

สูงพอประมาณ รูปลักษณ์ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่มีสาวคนไหนต้อนรับผมเลยสักคนก็เคยพยายามหาแฟนมาก่อนเหมือนกัน หลังถูกปัดบอกปฏิเสธคำสารภาพไปถึงสามราย ก็เลยปลงไปล่ะ แฮะ การมีแฟนตอนอายุปู่นี้ ถ้าให้พูดตามตรงมาเป็นเรื่องกวนใจ

เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากงานล้น แม้งานจะไม่เข้าก็ไม่รู้สึกอยากสนเท่ห์เท่าไหร่

.....ไม่ใช่คำแก้ตัวอะไรหรอก เข้าใจไหม?

ก็ถ้าให้บอกเหตุผลกันจริงทำไมถึงคิดเช่นนี้——

"รุ่นพี่ครับ ผมขอโทษด้วยที่ทำให้รุ่นพี่ต้องรอ!"

ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าสดชื่นเดินเข้ามาหาผมแล้วยิ้มข้างๆเขามีสาวสวย รุ่นน้องผมเองทามุระและพนักงานต้อนรับซาวาตาริได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ต่ำแหน่ง"มาดอนน่า(สาวสวยขวัญใจปวงชน)"ประจำบริษัท

ถูกต้องแล้วเหตุผลที่ผมถูกเชิญมาวันนี้ก็เพื่อเป็นที่ปรึกษางานแต่งพวกเขา แต่ดูท่าเหตุผลหลักคงมาตอกย้ำชีวิตผมสิท่า ขณะยืนพึงเสาไฟฟ้ารอสองคู่นี้กว่าจะมาถึงจุดนัดพบใจมันอดคิดนอกเรื่องไม่ได้เลย

"มีอะไรก็พูดมาได้เลยนะ?"

หลังจากพยักหน้าให้กับซาตาวาริลงเล็กน้อย ก็พูดออกไป

"นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาพบกัน ดิฉันชื่อชาวาตาริ โยชิเอะ แม้จะเห็นหน้ากันบ่อยๆแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกันจริงๆเลยค่ะ เริ่มรู้สึกประหม่าแล้วสิคะ"

คนที่สมควรประหม่าควรเป็นผมสิ!?

แถมผมยังคุยกับพวกผู้หญิงไม่เก่งอีกต่างหาก

ช่วยสังเกตๆกันหน่อยสิ...ความโกรธลุกโซนในหัวใจ

พอมาคิดๆดูแล้ว ยิ่งคิดเท่าไหร่แล้ว ก็ยิ่งดูเหมือนสองคนนี้จะไม่พยายามหาคนอื่นที่เหมือนผมเลยชายผู้อับโชคด้านรัก คงตั้งใจมาเยาะเย้ยกันแหงๆคิดอย่างวี้ก็ควไม่ผิดนักหรอก

"สวัสดีครับ ผมชื่อมินามิ ซาโตรุ ไม่เป็นไร เธอไม่ได้ไม่ประหม่าอะไรเลย ก็เพราะซาวาตาริซังเป็นถึงคนดังใบบริษัทเรา แม้จะไม่ต้องแนะนำตัวผมก็รู้จักคุณก่อนหน้านี้แล้ว เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับทามุระใช่ไหมล่ะ? แล้วก็เริ่มสนิทกันช่วงประชุมบริษัทแล้วก็ติดต่อหากันตลอดนับแต่นั้นมา"

"ดะ-ดัง? ดูเหมือนจะมีคนลือกันแปลกๆ..."

"แหงล่ะ ก็เหมือนกับไปมีอะไรกับหัวหน้าแผนกคิฮาระไม่ก็ไปออกเดทกับคาเมะยามะคุงนี่แหละ"

ผมอดไม่ได้เลยที่จะเริ่มปล่อยมุข หน้ากับหูซาตาวาริซังแดงเลยแถมน้ำตาซึมต่างหาก น่ารักเชียว

มุขปล่อยไม่เลือกหน้าจนคนรอบข้างแนะนำให้เลิกนิสัยแบบนี้ได้แล้ว แต่นิสัยเสียมันฝังเข้ากระดูกไปเสียล่ะ

ก็ตามคาด ครั้งนี้ก็ด้วย? นิสัยผมนี่แย่ชะมัด

อ๊าก เจ้าทามุระเอ๊ย!สถานการณ์แบบนี้อยากตะโกนสุดเสียงออกมา[เจ้าพวกปกติทั้งหลายระเบิดไปให้หมดเสียก็ดี!]

"รุ่นพี่ครับ ช่วยเพลาๆกันหน่อยสิ จ๋าจ๊ะ!อย่าใส่ใจเลยซาตาวาริ รุ่นพี่ก็แค่ปล่อยมุขเล่นเท่านั้นแหละ"

ทามุระกู้สถานการณ์ด้วยรอยยิ้ม เป็นคนที่เกลียดเอาไม่ลงซะเลย

ทามุระวัยเพียงยี่สิบแปดซึ่งก็ชัดแล้วว่าเด็กกว่าผม หมอนี่มีโชคเรื่องสาวๆด้วยดีจังเลยนะ ช่วยไม่ได้เลยก็ได้อวยพรอย่างสุจริตใจให้สองคู่นี้มีความสุขกัน...

"โทษทีนะ พอดีนิสัยเสียมันกำเริบให้เข้าน่ะ ยังไงยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก งั้นไปหาที่นั่งคุยแล้วรับประทานอาหารกันดีกว่า"

ความริษยาไม่ใช่ทางออกหรอก ระหว่างที่ผมคิดอย่างงั้น

"กรี๊ดดดดด————–!"

มีเสียงร้องดังแต่ไกลท่ามกลางความโกลาหล

เรื่อง?มีเรื่องอะไรกันเรอะ!?

"หลีกทางไปซะ! ไม่งั้นจะฆ่าทิ้งแน่!!"

หันไปทางต้นเสียง เห็นชายผู้หนึ่งถือมีดทำครัวและกระเป๋าถือรีบวิ่งมาตรงนี้

เสียงร้องอันคับแค้นใจยังชายผู้อยู่เบื้องหน้า มีดทำครัวชี้ไปทาง...

"ทามุระ———!"

ช่วงพริบตาผมผลักทามุระออกไป ความเจ็บปวดแล่นแผดเผาไปถึงด้านหลัง ผมล้มลงไปด้วยความเจ็บปวด

ไม่เข้าใจสักนิดว่ามันเกิดกันแน่ ร่างกายมันไม่ยอมขยับตาม

"อย่ามาขวางทางชั้นนน——-!"

มองดูชายที่หลบหนีไปเพื่อยืนยันความปลอดภัยของทั้งสองทามุระและซาวาตาริ

ทามุระวิ่งเข้ามาหาแล้วปล่อยเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าออกมา

ซาตาวาริยู่ในสภาพตื่นตระหนกเพราะเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ดีแล้วล่ะ

เมื่อพูดถึงเรื่องบาดเจ็บ หลังผมรู้สึกร้อนจังเลย แม้จะไม่รู้สึกเจ็บอะไรแต่ก็ยังรู้สึกประสาทด้านหลังที่แผดเผา

อะไรกันนะ?ร้อนเกินไปแล้วนะ ขอทีเถอะ

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานความร้อน].....สำเร็จ]

อย่าบอกนะว่า..... ผมถูกแทงไปเมื่อตะกี๊?

ผมไม่อยากตายในสภาพแบบนี้เลย จริงๆ......

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานการถูกแทง]....สำเร็จ ยังได้รับ[ต้านทานการโจมตีทางกายภาพ]..... สำเร็จ]

"รุ่นพี่ เลือด มันไหล..... ผมห้ามเลือดไม่ได้....."

อะไรนะ ทามุระ นายนี่ทำตัวหนวกหูจริงๆ เสียงนายยิ่งแปลกไปกว่าเดิม ก็เป็นทามุระ นี่แนะ ช่วยไม่ได้

เลือด?ใช่แล้ว ผมเลือดไหลอยู่นี่ ผมเป็นมนุษย์สินะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีเลือดไหลออกเมื่อถูกแทง

แต่ความเจ็บปวดมันรับไม่ไหวแล้ว...

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ความเจ็บปวด ไร้ผล].....สำเร็จ]

เป็น.....อย่างงี้ไม่ดีแน่ ดูเหมือนความเจ็บปวดกับอาการอยู่ไม่สุขทำให้การรับรู้เรามันจัดระเบียบไม่อยู่

"ทะ ทามุระ..... อย่าตะโกนแบบนั้นสิ มาถึงระดับนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกนะ...... "

"แต่ แต่ว่า รุ่นพี่ครับ เลือด เลือดมัน......"

ทามุระกอดหัวผมไว้ด้วยสีหน้าซีดเผือดบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

ผมอยากรู้ว่าทางซาวาตาริอาการเป็นยังไง แย่หน่อยที่สายตามันเริ่มเบลอไปหมดจนมองอะไรไม่ค่อยออก

สัมผัสแสบร้อนหลังผมหายไปหมดสิ้นแทนที่ด้วยความเย็นเฉียบ

ไม่ดีแน่.....หากคนสูญเสียเลือดมากไปก็จะตายใช่ไหมน๊า?

[ยืนยันสมบูรณ์สร้างร่างกายที่ไม่ต้องการเลือด..... สำเร็จ]

(เห้ย ผมพูด แกคนที่พูดอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี๊นี้แล้ว?ได้ยินไม่ค่อยชัดเลย.....)

พยายามปล่อยเสียออกมา แต่ก็ล้มเหลว ดูเหมือน ถึงคราวตายจริงๆล่ะ..... เมื่อพูดถึงอาการตอนนี้เป็นกระดูกสันหลังหนาววาบ.....ทีแรกก็ร้อนประเดี๋ยวก็หนาว ดูท่าผมเป็นคนยุ่งเสียจริง

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานความหนาว].....สำเร็จ เพราะได้รับท่าทั้งสอง[ต้านทานความร้อน]และ[ต้านทานความหนาว]สกิลได้พัฒนาเป็น[ต้านทานการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ]]

เวลาแบบนี้ เซลล์สมองกำลังค่อยๆทยอยตายลงจู่ก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ เหมือนช่วงที่ร้อง ยูเรก้า

อ่า ใช่แล้ว!! ฮาร์ดไดรฟ์ คอมพิวเตอร์ไง!!

"ทามุระ—-!!เผื่อ เผื่อกรณีที่ผมตายไป..... ฝากดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยนะไม่ว่าจะขว้างลงอ่างน้ำหรือทำให้ลัดวงจรง่ายๆฝากทำลายข้อมูลที่เก็บอยู่ในนั้นให้เกลี้ยงเลยนะ!?"

ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายฝากสิ่งที่ผมกังวลใจไว้ให้ทามุระดูแลต่อ


[ยืนยันสมบูรณ์ ทำลายข้อมูลด้วยการลัดวงจร.....เนื่องจากขาดความรู้ในเรื่องนี้ ไม่สามารถดำเนินการล้มเหลว ใช้มาตรการแทนที่ ได้รับ[ต้านทานกระแสไฟฟ้า]..... สำเร็จ เวลาเดียวกันยังได้รับสกิลย่อย[ต้านทานการอัมพาต]..... สำเร็จ]

ทามุระไม่โต้ตอบกลับสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ใบหน้าเขาเติมไปด้วยอาการงุงงน

แต่เขากลับเข้าใจความหมายแฝงที่แท้จริงไว้อย่างรวดเร็ว เผยรอยยิ้มที่ขบขันแกมเหน็บแนม

"ฮ่า ฮ่า สมกับเป็นรุ่นพี่เลย——-"

ผมไม่อยากเห็นคนมาร้องไห้เป็นฉากสุดท้ายในชีวิต แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ขบขันแกมเหน็บแนมแต่ก็ยังดีกว่าใบหน้าที่ร้องไห้

"ที่จริงแล้วครั้งนี้ ผมแค่อยากเอาคุณซาวาตาริมาอวดต่อหน้ารุ่นพี่เท่านั้นเอง......"

ผมรู้อยู่แล้ว.....เจ้าบ้านี่

"เชอะ....เออ ก็ยกโทษให้แล้ว ทำให้เธอคนนั้นมีความสุข ตกลงนะ?แล้วก็ฝากดูคอมพิวเตอร์ของ....."

เรี่ยวแรงก็หมดก็อต ผมกล่าว

ชีวิตที่ปกติสุขและไร้ค่า

จบมหาลัย ก็ไปลองงานในบริษัทก่อสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นชายโสดอายุ37ปี ไม่มีแฟนแม้แต่คนเดียว

เพราะการมีพี่ชายคนโตที่อายุราวๆเดียวกันได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ไปหมดคนเดียว ผมก็เลยใช้ชีวิตได้อย่างอิสระลงเอ๋ยด้วยการเป็นโสดไม่ต้องมีโซ่อะไรมาผูกมัด กับตัว

ต้องขอบคุณเรื่องนั้น ผมก็เลยยังเวอร์จิ้นมาจนถึงบัดนี้

ก็ไม่ได้คิดเลยว่าจะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้ใช้มัน..... เจ้าลูกชายคงเสียใจแย่

โทษทีนะ ที่ช่วยเจ้ากลายเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้.....

หากมีชาติหน้า ก็อยากใช้ชีวิตในฐานะคนใหม่ หากเป็นงั้นจริง ผมต้อง'รุก'ให้หนักๆ จีบให้ทั่ว ฟาดให้เรียบ

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับสกิลเอกลักษณ์[นักล่า]..... สำเร็จ]

ใกล้จะสี่สิบอยู่แล้วเชียว ถ้าโสดจนอายุสามสิบยังถือเป็นนักเวทย์ หากอยู่ต่อหน่อยก็จะเป็นนักปราชญ์แล้วแท้ๆ.....ยิ่งเรื่องมหาปราชญ์ก็ไม่เกินฝัน!แต่หากไปถึงจุดนั้นได้จริงๆตัวเราโครตน่าสังเวชโดยแท้......

[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับเอกซ์ตร้าสกิล[นักปราชญ์].....สำเร็จ ดำเนินการพัฒนาต่อไป[นักปราชญ์]กลายเป็นสกิลเอกลักษณ์[มหาปราชญ์]...... สำเร็จ]

..... ให้พูดแล้ว ไอ้ก่อนหน้านี้ ไอ้ก่อนหน้านี้ก็ด้วยมันคืออะไรกันฟะ? แล้วไอ้(สกิลเอกลักษณ์[มหาปราชญ์])ห๊ะ? นี่กะมาล้อผมใช่ไหมห๊ะ?

เรื่องนี้มันไม่สมควรเรียกเอกลักษณ์ซะหน่อยโว้ยย!?

ผมหัวเราะไม่ออกเลยนะ!

หยาบคายกันชัดๆ......

คิดเรื่องไร้สาระพวกนี้แล้ว ผมจมสู่ห้วงแห่งการหลับไหล

นี่นั้นเหรอความตาย.....ก็ไม่ได้เหงาเท่าที่ผมจินตนการไว้เลย

เป็นคำพูดสุดท้ายของผมก่อนจากโลกนี้ไป

เครดิตผู้แปล https://alyschu.wordpress.com/main-projects/tensei-shitara-slime-datta-ken/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น