Tensei Shitara Slime Datta Ken กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นสไลม์
บทนำ
การตายและการกลับชาติมาเกิดใหม่
(Death~ and Reincarnation)
มินามิ ซาโตรุ วัย 37 ที่อยู่มาวันหนึ่งก็ถูกนักเลงแทงตาย
ทว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานนะสไลม์
และได้พบกับมังกรระดับหายนะ 'มังกรวายุเวรุโดร่า' หลังจากได้ชื่อใหม่
'ริมูรุ' จากมังกรเวรุโดร่า การผจญภัยโลกใบใหม่ได้เริ่มต้นขึ้น
ระหว่างเริ่มต้นชีวิตใหม่เขาได้เข้าเผชิญความขัดแย้งระหว่างชนเผ่าก็อบลินและกาโร ถูกจับพลัดจับพลูให้เป็นผู้ปกครองเหล่ามอสเตอร์ ด้วยความสามารถ
[นักล่า] ที่ช่วยขโมยความสามารถฝ่ายตรงข้าม และ [มหาปราชญ์]
ความหยั่งรู้เข้าใจถึงกฏแห่งจักรวาล
ตำนานสไลม์ผู้แข็งแกร่งผู้มีสองความสามารถเป็นอาวุธ เริ่มขึ้นแล้ว!
ชีวิตที่ปกติสุขและไร้ค่า
พอจบมหาลัย ก็ไปลองงานในบริษัทก่อสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นชายโสดอายุ37ปี ไม่มีแฟนแม้แต่คนเดียว
เพราะมีพี่ชายคนโตที่อายุราวๆเดียวกันได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ไปหมดคนเดียว ผมก็เลยใช้ชีวิตได้อย่างอิสระลงเอ๋ยด้วยการเป็นโสดไม่ต้องมีโซ่อะไรมาผูกมัดกับตัว
สูงพอประมาณ รูปลักษณ์ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่มีสาวคนไหนต้อนรับผมเลยสักคนก็เคยพยายามหาแฟนมาก่อนเหมือนกัน หลังถูกปัดบอกปฏิเสธคำสารภาพไปถึงสามราย ก็เลยปลงไปล่ะ แฮะ การมีแฟนตอนอายุปู่นี้ ถ้าให้พูดตามตรงมาเป็นเรื่องกวนใจ
เหตุผลส่วนหนึ่งก็มาจากงานล้น แม้งานจะไม่เข้าก็ไม่รู้สึกอยากสนเท่ห์เท่าไหร่
.....ไม่ใช่คำแก้ตัวอะไรหรอก เข้าใจไหม?
ก็ถ้าให้บอกเหตุผลกันจริงทำไมถึงคิดเช่นนี้——
"รุ่นพี่ครับ ผมขอโทษด้วยที่ทำให้รุ่นพี่ต้องรอ!"
ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าสดชื่นเดินเข้ามาหาผมแล้วยิ้มข้างๆเขามีสาวสวย รุ่นน้องผมเองทามุระและพนักงานต้อนรับซาวาตาริได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ต่ำแหน่ง"มาดอนน่า(สาวสวยขวัญใจปวงชน)"ประจำบริษัท
ถูกต้องแล้วเหตุผลที่ผมถูกเชิญมาวันนี้ก็เพื่อเป็นที่ปรึกษางานแต่งพวกเขา แต่ดูท่าเหตุผลหลักคงมาตอกย้ำชีวิตผมสิท่า ขณะยืนพึงเสาไฟฟ้ารอสองคู่นี้กว่าจะมาถึงจุดนัดพบใจมันอดคิดนอกเรื่องไม่ได้เลย
"มีอะไรก็พูดมาได้เลยนะ?"
หลังจากพยักหน้าให้กับซาตาวาริลงเล็กน้อย ก็พูดออกไป
"นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาพบกัน ดิฉันชื่อชาวาตาริ โยชิเอะ แม้จะเห็นหน้ากันบ่อยๆแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกันจริงๆเลยค่ะ เริ่มรู้สึกประหม่าแล้วสิคะ"
คนที่สมควรประหม่าควรเป็นผมสิ!?
แถมผมยังคุยกับพวกผู้หญิงไม่เก่งอีกต่างหาก
ช่วยสังเกตๆกันหน่อยสิ...ความโกรธลุกโซนในหัวใจ
พอมาคิดๆดูแล้ว ยิ่งคิดเท่าไหร่แล้ว ก็ยิ่งดูเหมือนสองคนนี้จะไม่พยายามหาคนอื่นที่เหมือนผมเลยชายผู้อับโชคด้านรัก คงตั้งใจมาเยาะเย้ยกันแหงๆคิดอย่างวี้ก็ควไม่ผิดนักหรอก
"สวัสดีครับ ผมชื่อมินามิ ซาโตรุ ไม่เป็นไร เธอไม่ได้ไม่ประหม่าอะไรเลย ก็เพราะซาวาตาริซังเป็นถึงคนดังใบบริษัทเรา แม้จะไม่ต้องแนะนำตัวผมก็รู้จักคุณก่อนหน้านี้แล้ว เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับทามุระใช่ไหมล่ะ? แล้วก็เริ่มสนิทกันช่วงประชุมบริษัทแล้วก็ติดต่อหากันตลอดนับแต่นั้นมา"
"ดะ-ดัง? ดูเหมือนจะมีคนลือกันแปลกๆ..."
"แหงล่ะ ก็เหมือนกับไปมีอะไรกับหัวหน้าแผนกคิฮาระไม่ก็ไปออกเดทกับคาเมะยามะคุงนี่แหละ"
ผมอดไม่ได้เลยที่จะเริ่มปล่อยมุข หน้ากับหูซาตาวาริซังแดงเลยแถมน้ำตาซึมต่างหาก น่ารักเชียว
มุขปล่อยไม่เลือกหน้าจนคนรอบข้างแนะนำให้เลิกนิสัยแบบนี้ได้แล้ว แต่นิสัยเสียมันฝังเข้ากระดูกไปเสียล่ะ
ก็ตามคาด ครั้งนี้ก็ด้วย? นิสัยผมนี่แย่ชะมัด
อ๊าก เจ้าทามุระเอ๊ย!สถานการณ์แบบนี้อยากตะโกนสุดเสียงออกมา[เจ้าพวกปกติทั้งหลายระเบิดไปให้หมดเสียก็ดี!]
"รุ่นพี่ครับ ช่วยเพลาๆกันหน่อยสิ จ๋าจ๊ะ!อย่าใส่ใจเลยซาตาวาริ รุ่นพี่ก็แค่ปล่อยมุขเล่นเท่านั้นแหละ"
ทามุระกู้สถานการณ์ด้วยรอยยิ้ม เป็นคนที่เกลียดเอาไม่ลงซะเลย
ทามุระวัยเพียงยี่สิบแปดซึ่งก็ชัดแล้วว่าเด็กกว่าผม หมอนี่มีโชคเรื่องสาวๆด้วยดีจังเลยนะ ช่วยไม่ได้เลยก็ได้อวยพรอย่างสุจริตใจให้สองคู่นี้มีความสุขกัน...
"โทษทีนะ พอดีนิสัยเสียมันกำเริบให้เข้าน่ะ ยังไงยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก งั้นไปหาที่นั่งคุยแล้วรับประทานอาหารกันดีกว่า"
ความริษยาไม่ใช่ทางออกหรอก ระหว่างที่ผมคิดอย่างงั้น
"กรี๊ดดดดด————–!"
มีเสียงร้องดังแต่ไกลท่ามกลางความโกลาหล
เรื่อง?มีเรื่องอะไรกันเรอะ!?
"หลีกทางไปซะ! ไม่งั้นจะฆ่าทิ้งแน่!!"
หันไปทางต้นเสียง เห็นชายผู้หนึ่งถือมีดทำครัวและกระเป๋าถือรีบวิ่งมาตรงนี้
เสียงร้องอันคับแค้นใจยังชายผู้อยู่เบื้องหน้า มีดทำครัวชี้ไปทาง...
"ทามุระ———!"
ช่วงพริบตาผมผลักทามุระออกไป ความเจ็บปวดแล่นแผดเผาไปถึงด้านหลัง ผมล้มลงไปด้วยความเจ็บปวด
ไม่เข้าใจสักนิดว่ามันเกิดกันแน่ ร่างกายมันไม่ยอมขยับตาม
"อย่ามาขวางทางชั้นนน——-!"
มองดูชายที่หลบหนีไปเพื่อยืนยันความปลอดภัยของทั้งสองทามุระและซาวาตาริ
ทามุระวิ่งเข้ามาหาแล้วปล่อยเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าออกมา
ซาตาวาริยู่ในสภาพตื่นตระหนกเพราะเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ดีแล้วล่ะ
เมื่อพูดถึงเรื่องบาดเจ็บ หลังผมรู้สึกร้อนจังเลย แม้จะไม่รู้สึกเจ็บอะไรแต่ก็ยังรู้สึกประสาทด้านหลังที่แผดเผา
อะไรกันนะ?ร้อนเกินไปแล้วนะ ขอทีเถอะ
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานความร้อน].....สำเร็จ]
อย่าบอกนะว่า..... ผมถูกแทงไปเมื่อตะกี๊?
ผมไม่อยากตายในสภาพแบบนี้เลย จริงๆ......
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานการถูกแทง]....สำเร็จ ยังได้รับ[ต้านทานการโจมตีทางกายภาพ]..... สำเร็จ]
"รุ่นพี่ เลือด มันไหล..... ผมห้ามเลือดไม่ได้....."
อะไรนะ ทามุระ นายนี่ทำตัวหนวกหูจริงๆ เสียงนายยิ่งแปลกไปกว่าเดิม ก็เป็นทามุระ นี่แนะ ช่วยไม่ได้
เลือด?ใช่แล้ว ผมเลือดไหลอยู่นี่ ผมเป็นมนุษย์สินะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีเลือดไหลออกเมื่อถูกแทง
แต่ความเจ็บปวดมันรับไม่ไหวแล้ว...
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ความเจ็บปวด ไร้ผล].....สำเร็จ]
เป็น.....อย่างงี้ไม่ดีแน่ ดูเหมือนความเจ็บปวดกับอาการอยู่ไม่สุขทำให้การรับรู้เรามันจัดระเบียบไม่อยู่
"ทะ ทามุระ..... อย่าตะโกนแบบนั้นสิ มาถึงระดับนี้แล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอกนะ...... "
"แต่ แต่ว่า รุ่นพี่ครับ เลือด เลือดมัน......"
ทามุระกอดหัวผมไว้ด้วยสีหน้าซีดเผือดบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา
ผมอยากรู้ว่าทางซาวาตาริอาการเป็นยังไง แย่หน่อยที่สายตามันเริ่มเบลอไปหมดจนมองอะไรไม่ค่อยออก
สัมผัสแสบร้อนหลังผมหายไปหมดสิ้นแทนที่ด้วยความเย็นเฉียบ
ไม่ดีแน่.....หากคนสูญเสียเลือดมากไปก็จะตายใช่ไหมน๊า?
[ยืนยันสมบูรณ์สร้างร่างกายที่ไม่ต้องการเลือด..... สำเร็จ]
(เห้ย ผมพูด แกคนที่พูดอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี๊นี้แล้ว?ได้ยินไม่ค่อยชัดเลย.....)
พยายามปล่อยเสียออกมา แต่ก็ล้มเหลว ดูเหมือน ถึงคราวตายจริงๆล่ะ..... เมื่อพูดถึงอาการตอนนี้เป็นกระดูกสันหลังหนาววาบ.....ทีแรกก็ร้อนประเดี๋ยวก็หนาว ดูท่าผมเป็นคนยุ่งเสียจริง
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับ[ต้านทานความหนาว].....สำเร็จ เพราะได้รับท่าทั้งสอง[ต้านทานความร้อน]และ[ต้านทานความหนาว]สกิลได้พัฒนาเป็น[ต้านทานการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ]]
เวลาแบบนี้ เซลล์สมองกำลังค่อยๆทยอยตายลงจู่ก็นึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ เหมือนช่วงที่ร้อง ยูเรก้า
อ่า ใช่แล้ว!! ฮาร์ดไดรฟ์ คอมพิวเตอร์ไง!!
"ทามุระ—-!!เผื่อ เผื่อกรณีที่ผมตายไป..... ฝากดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยนะไม่ว่าจะขว้างลงอ่างน้ำหรือทำให้ลัดวงจรง่ายๆฝากทำลายข้อมูลที่เก็บอยู่ในนั้นให้เกลี้ยงเลยนะ!?"
ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายฝากสิ่งที่ผมกังวลใจไว้ให้ทามุระดูแลต่อ
[ยืนยันสมบูรณ์ ทำลายข้อมูลด้วยการลัดวงจร.....เนื่องจากขาดความรู้ในเรื่องนี้ ไม่สามารถดำเนินการล้มเหลว ใช้มาตรการแทนที่ ได้รับ[ต้านทานกระแสไฟฟ้า]..... สำเร็จ เวลาเดียวกันยังได้รับสกิลย่อย[ต้านทานการอัมพาต]..... สำเร็จ]
ทามุระไม่โต้ตอบกลับสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ใบหน้าเขาเติมไปด้วยอาการงุงงน
แต่เขากลับเข้าใจความหมายแฝงที่แท้จริงไว้อย่างรวดเร็ว เผยรอยยิ้มที่ขบขันแกมเหน็บแนม
"ฮ่า ฮ่า สมกับเป็นรุ่นพี่เลย——-"
ผมไม่อยากเห็นคนมาร้องไห้เป็นฉากสุดท้ายในชีวิต แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ขบขันแกมเหน็บแนมแต่ก็ยังดีกว่าใบหน้าที่ร้องไห้
"ที่จริงแล้วครั้งนี้ ผมแค่อยากเอาคุณซาวาตาริมาอวดต่อหน้ารุ่นพี่เท่านั้นเอง......"
ผมรู้อยู่แล้ว.....เจ้าบ้านี่
"เชอะ....เออ ก็ยกโทษให้แล้ว ทำให้เธอคนนั้นมีความสุข ตกลงนะ?แล้วก็ฝากดูคอมพิวเตอร์ของ....."
เรี่ยวแรงก็หมดก็อต ผมกล่าว
ชีวิตที่ปกติสุขและไร้ค่า
จบมหาลัย ก็ไปลองงานในบริษัทก่อสร้างธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นชายโสดอายุ37ปี ไม่มีแฟนแม้แต่คนเดียว
เพราะการมีพี่ชายคนโตที่อายุราวๆเดียวกันได้รับความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ไปหมดคนเดียว
ผมก็เลยใช้ชีวิตได้อย่างอิสระลงเอ๋ยด้วยการเป็นโสดไม่ต้องมีโซ่อะไรมาผูกมัด
กับตัว
ต้องขอบคุณเรื่องนั้น ผมก็เลยยังเวอร์จิ้นมาจนถึงบัดนี้
ก็ไม่ได้คิดเลยว่าจะจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้ใช้มัน..... เจ้าลูกชายคงเสียใจแย่
โทษทีนะ ที่ช่วยเจ้ากลายเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้.....
หากมีชาติหน้า ก็อยากใช้ชีวิตในฐานะคนใหม่ หากเป็นงั้นจริง ผมต้อง'รุก'ให้หนักๆ จีบให้ทั่ว ฟาดให้เรียบ
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับสกิลเอกลักษณ์[นักล่า]..... สำเร็จ]
ใกล้จะสี่สิบอยู่แล้วเชียว ถ้าโสดจนอายุสามสิบยังถือเป็นนักเวทย์ หากอยู่ต่อหน่อยก็จะเป็นนักปราชญ์แล้วแท้ๆ.....ยิ่งเรื่องมหาปราชญ์ก็ไม่เกินฝัน!แต่หากไปถึงจุดนั้นได้จริงๆตัวเราโครตน่าสังเวชโดยแท้......
[ยืนยันสมบูรณ์ ได้รับเอกซ์ตร้าสกิล[นักปราชญ์].....สำเร็จ ดำเนินการพัฒนาต่อไป[นักปราชญ์]กลายเป็นสกิลเอกลักษณ์[มหาปราชญ์]...... สำเร็จ]
..... ให้พูดแล้ว ไอ้ก่อนหน้านี้ ไอ้ก่อนหน้านี้ก็ด้วยมันคืออะไรกันฟะ? แล้วไอ้(สกิลเอกลักษณ์[มหาปราชญ์])ห๊ะ? นี่กะมาล้อผมใช่ไหมห๊ะ?
เรื่องนี้มันไม่สมควรเรียกเอกลักษณ์ซะหน่อยโว้ยย!?
ผมหัวเราะไม่ออกเลยนะ!
หยาบคายกันชัดๆ......
คิดเรื่องไร้สาระพวกนี้แล้ว ผมจมสู่ห้วงแห่งการหลับไหล
นี่นั้นเหรอความตาย.....ก็ไม่ได้เหงาเท่าที่ผมจินตนการไว้เลย
เป็นคำพูดสุดท้ายของผมก่อนจากโลกนี้ไป
เครดิตผู้แปล https://alyschu.wordpress.com/main-projects/tensei-shitara-slime-datta-ken/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น